เปิดอาคารแปรรูปกาแฟแบบครบวงจร บ้านห้วยโทน

เปิดอาคารแปรรูปกาแฟแบบครบวงจร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟ

เพิ่มศักยภาพการผลิตกาแฟ บ้านห้วยโทน

          วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดอาคารแปรรูปกาแฟแบบครบวงจร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟ บ้านห้วยโทน นำโดย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง นายธีระ แก้วมา นายอำเภอบ่อเกลือ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เกียรติร่วมพิธีเปิด ณ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ่อเกลือ บ้านห้วยโทน ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน

          นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า  สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) มีภารกิจในการขยายองค์ความรู้จากโครงการหลวงสู่พื้นที่สูงอื่น 44 แห่ง ครอบคลุม 8 จังหวัด ซึ่งในพื้นที่จังหวัดน่าน มีโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 11 แห่ง ที่ดำเนินการในการพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ครบทุกมิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น บ้านห้วยโทนเป็นอีก 1 กลุ่มบ้าน ที่อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ่อเกลือ โดยการพัฒนาพื้นที่จะใช้แผนชุมชนและแผนที่ดินรายแปลงเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนงาน ประกอบกับการนำองค์ความรู้จากโครงการหลวงมาปรับใช้โดยมีเป้าหมายให้ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน 

          นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ่อเกลือ ได้ดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานชุมชนในพื้นที่และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟบ้านห้วยโทน ได้ดำเนินการผลิตกาแฟเพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนบ้านห้วยโทนโดยการปลูกกาแฟในพื้นที่เป็นรูปแบบของการปลูกกาแฟร่วมกับป่าเพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ โดยเน้นการปรับระบบการปลูกพืชที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้พื้นที่น้อยแต่สร้างรายได้ให้เท่ากับหรือมากกว่าการใช้พื้นที่มาก ก่อให้เกิดการทำเกษตรที่ยั่งยืน มีการดำเนินงานโดยใช้การตลาดนำการผลิต นำมาซึ่งความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรในการเปลี่ยนระบบการปลูกพืช แล้วยังสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่

          จากการดำเนินงานที่ผ่านมามีผลผลิตกาแฟจากพื้นที่โดยเฉลี่ยปีละ 25-30 ตัน สร้างรายได้ประมาณ 660,000 บาทต่อปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเป็น 40 ตันต่อปี ดังนั้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตกาแฟคั่วให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้สร้างอาคารแปรรูปกาแฟแบบครบวงจรเพื่อรองรับผลผลิตกาแฟที่จะแปรรูปเป็นกาแฟคั่ว สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่มผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่เพื่อจำหน่ายต่อไป

          จากนั้นทางคณะได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) การผลิตกาแฟภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย ระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกาแฟบ้านห้วยโทน โดยทั้งสองฝ่าย ได้ตกลงจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการผลิตกาแฟภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย ซึ่งร่วมมือในการส่งเสริมการเพาะปลูกกาแฟตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์