“ข้าว” เป็นวิถีชีวิตในการดำรงชีพของชนเผ่าปกาเกอญอ เพราะมีความเชื่อว่า “ข้าว” เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีจิตวิญญาณ เมื่อถึงฤดูปลูกข้าวชนเผ่าปกาเกอญอจะประกอบพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและความเชื่อที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ เริ่มตั้งแต่ก่อนปลูกข้าวจนถึงเก็บเกี่ยวซึ่งปัจจุบันพิธีกรรมมีความแตกต่างกันออกไปบ้างเล็กน้อยแล้วแต่ความเชื่อ ความเหมาะสมของสภาพความเป็นอยู่ของแต่ละแหล่ง และยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังคงมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว และเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณ ธัญญาหาร เช่นเดียวกับ ชนเผ่าปกาเกอญอ บ้านจันทร์ อำเภอกัลยานิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังคงมีความเชื่อในการ สืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญหาข้าวบนพื้นที่สูง ในชุมชนเริ่มตั้งแต่พิธีกรรมก่อนการปลูกข้าว ประกอบด้วย
ปลายเดือน พฤศจิกายน – ต้นเดือน ธันวาคม ของทุกปี
ตะกร้าพิธี ประกอบด้วย เหล้าต้ม ข้าวต้มมัดดอย “แมตอ” ข้าวปุก “เมโตพี่” ดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องนุ่งห่มใช้สำหรับประกอบพิธี เสื้อ ผ้าซิ่น และผ้าโพกผม สายสิญจน์ และ “หน่อโดควะ” (อุปกรณ์สำหรับคนข้าว)
เมื่อกำหนดวันประกอบพิธีมัดมือแล้ว ทุกครัวเรือนต้องต้มเหล้าเพื่อใช้ประกอบพิธี (ระยะในการต้มเหล้าใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์) และในระหว่างที่ต้มเหล้าไม่อนุญาตให้คนในครอบครัวนอนค้างนอกบ้าน
ในกรณีที่มีคนเสียชีวิตในหมู่บ้านพิธีมัดมือต้องยกเลิกโดยถือว่าเป็น “วันเสีย” (ในความเชื่อของชนเผ่าปกาเกอญอไม่ว่าจะกระทำการพิธีกรรมใดๆต้องดูฤกษ์งามยามดีก่อนเสมอเพื่อความเป็นสิริมงคล)และจะกำหนดวันประกอบพิธีมัดมือใหม่ในอีก 1 เดือนข้างหน้า และหากมีผู้เสียชีวิตอีกพิธีมัดมือก็จะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะได้ “วันดี” และในกรณีที่พิธีมัดมือถูกยกเลิกเนื่องจากมีผู้เสียชีวิตในหมู่บ้าน เหล้าต้มที่เตรียมไว้สำหรับทำพิธีจะไม่สามารถนำมาใช้ในการประกอบพิธี
ทุกครัวเรือนทำพิธีมัดมือเพื่อขอพรแก่ผู้เฒ่าผู้แก่และญาติผู้ใหญ่ที่ตนเองนับถือ ในระหว่างทำพิธี ผู้เฒ่าผู้แก่จะใช้ “หน่อโดควะ” เคาะเพื่อเรียกขวัญ
พิธี “แควะสิ” ผู้เฒ่าผู้แก่หรือหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ทำพิธีและต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ผู้ทำพิธีรินเหล้าลงบนพื้นให้แก่แม่ธรณีเจ้าที่เจ้าทางเพื่อขอพรให้สุขภาพแข็งแรง พืชผลเจริญงอกงาม เป็นต้น จากนั้นผู้ทำพิธีจะรินเหล้าให้แก่ผู้มาร่วมพิธี 1 รอบ เมื่อรินเหล้ารอบที่ 2 จึงอนุญาตให้ผู้ทำพิธีดื่มเหล้าได้
* ช่วงหว่านกล้า-ช่วงเก็บเกี่ยว หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ทำพิธีไหว้เจ้าที่เจ้าทางในแปลงนาเพื่อขอพรให้ข้าวเจริญงอกงาม ผลผลิตอุดมสมบูรณ์มีกินตลอดทั้งปี
“มาเตอลอเก๊อะ” แปลว่า มาเก็บช้อนตก
ปลายเดือน พฤศจิกายน – ต้นเดือน ธันวาคม ของทุกปี
หิน 3 เส้า ข้าวใหม่ เหล้าต้ม (จากข้าวใหม่ “พ่อคลีดะ”) ขันโตก ใบกิโกล่า ของป่า เช่น ขิง เผือก ฝัก มัน กระรอก ปูนา หมูป่า (ในปัจจุบัน ใช้หมู และไก่ แทนของป่า)
หุงข้าวใหม่ พร้อมด้วยอาหารคาวหวาน ทำบุญถวายทานพระพุทธเจ้า เทวดา เจ้าป่าเจ้าเขาเพื่อขอพรให้ครอบครัวอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตข้าวพอกินตลอดทั้งปี
หุงข้าวใหม่ พร้อมด้วยอาหารคาวหวาน เหล้าต้ม จัดวางใส่ขันโตกให้สวยงามตกแต่งด้วยใบกิโกล่า เพื่อถวายหิน 3 เส้า ในห้องครัว หลังจากถวายให้แก่หิน 3 เส้าแล้วจึงให้บิดามารดาหรือหัวหน้าครอบครัวรับประทานก่อน หลังจากนั้นจะบรรดาลูกหลาน ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านมาร่วมพิธีกินข้าวใหม่
ทำพิธีในหลองข้าว (ยุ้งฉาง) หัวหน้าครอบครัวประกอบพิธี “แควะสิ” และรินเหล้าลงบนกองข้าวเล็กน้อย เพื่อขอพรให้ข้าวพอกินตลอดทั้งปี โดยผู้เข้าร่วมพิธีทั้งชายหญิงต้องนำดอกไม้มาทัดหู เมื่อเสร็จพิธีจึงรับประทานอาหารร่วมกัน
เหล้าต้ม ชิ้นส่วนไก่สดไก่ตัวผู้ และไก่ตัวเมีย เช่น เครื่องในไก่ เศษเล็บไก่ เป็นต้น